เล่นละเลงรัก NC 3 [CH-12]
CUT SCENE
“รู้สึกดี...ก็ไม่ต้องทน...”
“…”
เจ้านายเหยียดยิ้มมุมปากด้วยความเหนือชั้นในจังหวะหนึ่งที่เขาหยุดปลายลิ้น
หรุบตามองลงไปตั้งแต่ใบหน้าจนถึงจุดที่เขาเพิ่งปรนเปรอด้วยแรงดุนความอุ่นที่ส่งตรงจากเรียวปาก
“แต่ผมรู้...
เลขาของผมทั้งดื้อ..ทั้งอดทนเก่งอยู่แล้ว”
“อ้ะ!...”
เสียงสั่นหลงหลุดลอดออกมาอย่างยากที่จะอดกลั้นพร้อมด้วยแผ่นอกที่แอ่นขึ้นรับความชื้นจากปลายลิ้น
เมื่อเจ้านายก้มลงไปตวัดจุดอ่อนไหวที่นูนขึ้นมาโดยไม่ให้ได้โอกาสตั้งตัว
แบมแบมรีบกัดปากขบเม้มมันเอาไว้เมื่อรู้ตัวตัวเองกำลังถูกต้อนให้จนมุมเรื่อยๆจากคนขี้โกงที่คร่อมร่างตนอยู่
แต่เมื่อยิ่งดิ้นยิ่งต่อต้านก็ดูท่าว่าเจ้านายก็ยิ่งอยากที่จะเอาชนะ
เหมือนเขากลับมาเป็นอี้เอินคนที่แบมแบมเจอในวันแรกที่สัมภาษณ์งาน
ไม่เหมือนอี้เอินคนที่เคยมองตนด้วยแววตาที่อ่อนโยนในช่วงก่อนหน้าที่เขาจะหายไป แบมแบมได้แต่คิดด้วยความสับสนไปพร้อมกับรับสัมผัสที่อีกคนกำลังปลุกเร้าเพื่อเอาชนะ
ใบหน้ายังคงเชิดรั้นแม้ดวงตาจะเริ่มปรือฉ่ำไปพร้อมกับเรียวคิ้วที่ขมวดชนกัน
อี้เอินกระทำการครอบครองไปเกือบจะทั่วทุกจุดบนเนื้อตัวที่เข้าถึงได้
สยบความดื้อไว้แค่เพียงปลายลิ้นที่ไล่ละเลงไปตามท่อนบนที่เข้าจัดการปลดกระดุมออกจากเสื้อตัวชื้นแยกออกจากกัน
“ปากคุณแข็ง...”
“สายตาคุณต่อต้าน...”
“อึก...”
“แต่ร่างกายคุณพร้อมจะเป็นของผมเต็มที่แล้ว...
ใช่ไหม...”
แบมแบมส่ายหน้าช้าๆแม้ร่างกายตนจะหนีไม่พ้นสิ่งที่อี้เอินกำลังบอก
“ส่ายหน้า...
แต่ร่างกายคุณเอง
มันไม่ให้ความร่วมมือกับคุณเลย”
คงจะดีถ้าพร้อมจะเป็นของอี้เอินแค่ร่างกาย
แต่ที่กลัวกว่านั้น...กลัวว่าจะไม่ใช่แค่ร่างกาย แต่รวมไปถึงความรู้สึกต่างหากที่มันกำลังจะถูกผู้ชายคนนี้กลืนกินไปทีเรื่อยๆจนถูกครอบครองอย่างสมบูรณ์แบบในที่สุด
เรียวขาถูกแยกออกกว้างเมื่อร่างกายที่สมส่วนกำลังแทรกตัวเข้าไประหว่างกลางจนบางส่วนที่เริ่มคับพองจากเจ้านายกระแทกชนกับส่วนล่างของเลขา
เขาลูบจับต้นขาเนียนที่เพิ่งดึงกางเกงออกไปจนพ้นข้อเท้าเล็กๆ ต้นขาสวยตอนนี้เหลือแค่เพียงชายเสื้อเปียกชื้นที่ปกปิดด้วยความหมิ่นเหม่
เจ้านายปลดหัวเข็มขัดดังแกร็กก่อนจะกระชับยกเอวบางขึ้นมาให้แนบแน่นกับลำตัวของตนแล้วจัดการไล่เฟ้นไปตามลำตัวสวยอีกครั้ง
เขาจูบเฟ้นขบเม้มไปทุกตารางเนื้อผิวแต่กลับไปแตะต้องส่วนนั้นเลยราวกับว่ากำลังทรมานเด็กดื้อเล่นๆ
มีเพียงเสียงลมหายใจที่ขัดกันเท่านั้นที่ดังแข่งกันกับเสียงขมเม้มไปตามจุดต่างๆของเรียวปากร้อน
ยิ่งแบมแบมเงียบเท่าไหร่เสียงจาบจ้วงของเรียวปากที่ดูดจุกสีสวยด้วยอารมณ์ครุกรุ่นทั้งสองข้างนั้นก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น
เจ้านายเร่งสะกิดปลายลิ้นลงไปบนจุกสวยที่เปียกชุ่มน้ำลายและเขาพอใจที่ร่างบางตอบสนองกระตุกรับอย่างเชิญชวนหรือเว้าวอนกลายๆให้เขาเร่งทำมันต่อ
ยิ่งเขาลงน้ำหนักลงไปอย่างหนักแน่นหรือเพิ่มความถี่มากขึ้นเท่าไรคนใต้ร่างที่ถูกเร้าโลมก็ยิ่งออกแรงกัดริมฝีปากอย่างอดกลั้นครั้งแล้วครั้งเล่า
แต่คราวนี้เจ้านายไม่หยุดเพียงแค่ปลายลิ้น
“ฮึก...อื้ม...”
เสียงหวานเล็ดลอดออกมาอย่างไม่เป็นท่าแม้จะของจะพยายามกลั้นสุดฤทธิ์
มันดังขึ้นเมื่อเจ้าแท่งนิ้วยาวกำลังสอดเข้าไปคุกคามกับท่อนล่างที่อ่อนไหวไม่ต่างจากทนบนนั่นพร้อมๆกัน
ก่อนหน้าเจ้านายส่งปลายนิ้วของตนเข้าไปในโพรงปากอิ่มๆนั้นจนกระทั่งที่มีน้ำหนืดใสติดเยิ้มปลายนิ้วออกมา
แน่นอนว่าท่อนล่างที่สอดปลายนิ้วเข้าไปนั้นตอบรับสัมผัสอี้เอินได้เป็นอย่างดี
และไม่ใช่แค่เพียงตอบรับ...แต่มันกลับตอบสนองอี้เอินได้อย่างรู้งาน
ดูกลืนนิ้วยาวนั้นเข้าไปแม้ในบางครั้งจะไม่ได้เป็นฝ่ายออกแรงสอดแรงๆด้วยซ้ำ
ก็ร่างกายนี้ไม่เคยปฏิเสธเขาเลย…
อี้เอินยิ้มร้ายพลางสบตากับดวงตาปรือๆที่เริ่มฉ่ำน้ำก่อนที่จะเริ่มลากปลายจมูกไปตามลำคอพร้อมกับที่ปลายนิ้วตนสอดเข้าสอดออกเข้าไปภายในร่างกายของเลขาด้วยความถนัดถี่ยิ่งขึ้นจนเจ้าของร่างสวยหายใจติดขัด
พ่นลมหายใจร้อนๆบนคอเจ้านายในจังหวะที่เขาวกมาจูบอย่างหนักหน่วง
ต้องยอมรับว่าเลขาของเขาน่ะอดทนเก่งจริงๆ
Rrrrrrrrrr Rrrrrrrrrr~~~
ไม่รู้ว่าโชคกำลังเข้าข้างแบมแบมหรือเปล่าที่อยู่ๆเสียงที่ดังขึ้นกลางความเงียบภายในห้องนั้นกำลังเป็นตัวขัดจังหวะ
และมันทำให้เจ้านายถึงกับขมวดคิ้วเมื่อพบว่าเสียงนั้นมันดังมาจากกระเป๋ากางเกงสแลคของตน
เรียวคิ้วเลิกขึ้นให้กับคนที่หยุดการจาบจ้วงไปทั่วร่างกายแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่หลุดพูดอะไรออกไป
เจ้านายวางท่านิ่งก่อนจะล้วงมือเข้าไปหยิบเจ้าเครื่องที่ดังอยู่ออกจากกระเป๋า
พอหน้าจอปรากฏชื่อของพี่ชายตนอี้เอินก็ช่างใจก่อนจะกดรับทั้งที่ยังคร่อมร่างบางในสภาพที่หมิ่นเหม่เต็มที
“ครับ...พี่โทรมามีอะไรหรือเปล่า?”
แบมแบมถึงกับเหยียดยิ้มกวนอารมณ์ให้กับคนที่ยังคงแนบโทรศัพท์ไว้ที่หูแต่สายตาตรงดิ่งลงมาที่ตน
แบมแบมไม่รู้ว่าเจ้านายกับพี่ชายของเขาคุยอะไรกันเพราะอี้เอินเอาแต่ฟังเสียงจากปลายสายเงียบๆ
พอนึกอะไรดีๆออกร่างบางก็เริ่มเคลื่อนไหวใช้จังหวะที่เจ้านายไม่ได้โฟกัสกับร่างกายตนนักจัดการยันร่างตัวเองขึ้นก่อนจะใช้มือที่โดนมัดด้วยเนคไทอยู่คล้องเข้าไปที่ลำคอของเจ้านาย
แล้วดึงร่างตัวเองให้นอนราบลงไปกับโซฟาอีกครั้งแต่คราวนี้เป็นเจ้านายที่ถูกดึงลงมาพร้อมกันด้วย
“อ่ะ...อื้อ...”
เสียงร้องถูกเปล่งออกมาอย่างตั้งใจถึงแม้ในครั้งนี้อี้เอินจะไม่ได้ทำอะไรเลยสักนิด
“อืม....อ่ะ...อาาาา...”
“…”
“ต่อสิคุณ...อืมมม”
(อี้เอิน...แกทำอะไรอยู่กับใคร?”
“เอาไว้ค่อยคุยกันพรุ่งนี้นะครับ
ตอนนี้ผมไม่สะดวกคุย”
เขากรอกเสียงไปหาพี่ชายที่ฟังอยู่ปลายสายโดยรีบตัดบทก่อนจะรีบตัดสายทิ้งไปทันที
พอสายถูกตัดไปแล้วทีนี้ก็จัดการเอาแขนที่คล้องคอตัวเองอยู่ออกไปแล้วรวบมือเจ้าปัญหาเอาไว้
ก่อนจะลุกขึ้นคุกเข่าแล้วมองเลขาตัวแสบอย่างคาดโทษ
“ผมประเมินความร้ายของคุณต่ำเกินไปสินะแบมแบม...”
เลขาตัวดีที่เคยแกล้งเปล่งเสียงวาบหวิวตอนนี้กลับมาใบ้กินอีกแล้ว
“คุณจงใจร้องให้เขาได้ยินใช่ไหม?”
ใบหน้ารั้นเชิดขึ้นท้าทาย
แต่ไม่นานก็เริ่มปริปากพูดขึ้นจนได้
“ผมเปล่า...ก็เห็นความพยายามของคุณที่จะทำให้ผมยอมพูดด้วย
ถึงแม้ว่าปลายลิ้นของคุณมันจะทำให้ผมเบื่อจนไม่อยากจะส่งเสียงอะไรออกมา....
แต่เมื่อกี้ถือว่าผมเห็นใจคุณก็เลยช่วยคุณสักหน่อย...”
“…”
“ไม่ดีใจเหรอครับ...อยากถามอะไรผมก็ถามมาเลย
ผมจะยอมเล่นบทเป็นฝ่ายแพ้ให้คุณก็ได้ในฐานะที่คุณเป็นเจ้านายและมีอำนาจต่อรองกับผมได้ทุกอย่าง”
“หึ...อยากให้ผมถาม...
หรือที่จริง...คุณอยากรู้ว่าผมจะถามอะไรกันแน่...”
เจ้านายยกยิ้มอย่างผู้ชนะ...
ในเมื่อเป็นฝ่ายโดนตลบหลังก็ต้องแก้เกมด้วยการตลบหลังกลับ
ออกตัวขนาดนี้เขามั่นใจว่าแบมแบมก็คงอยากรู้ว่าเขาจะถามอะไร
“ผมจะไม่ถามคุณตอนนี้หรอกนะ...”
“….”
“เพราะนี่ไม่ใช่เวลาที่เราจะคุยกัน”
“….”
“ผมจะทำเรื่องที่เราทำค้างกันอยู่ให้เสร็จ”
ร้ายมาก...แบมแบมเองก็ประเมิณผู้ชายคนนี้ต่ำไปเช่นกัน
“ซึ่งตอนนี้ถึงคุณจะพูดหรือไม่พูด...
ผมก็ไม่ได้สนใจ”
จบบทสนทนาไว้เพียงแค่นั้นเพราะแบมแบมตอบโต้กลับด้วยแววตาที่ฉายแววรั้นยิ่งกว่าเดิม
แต่ก็ทำได้ไม่นานนักก็ต้องปรือไปตามแรงโทสะที่เจ้านายเริ่มละเลงบนร่างกายของตนอีกครั้ง
พอนึกอะไรออกก็จัดการแกะเนคไทให้หลุดออกจากมือสวยๆนั่นข้างหนึ่ง
แบมแบมมองตามมือของเจ้านายที่นึกเล่นแผลงๆด้วยการมัดสายเนคไทผูกไปที่มือของตัวเองอีกข้าง
เท่ากับว่าตอนนี้ทั้งมือของเจ้านายและเลขานั้นต่างถูกมัดด้วยปลายเนคไทนั้นคนละข้าง
และสำหรับอี้เอินมือของเขาไม่ถือว่าถูกรัดเพื่อการจองจำแต่ถูกรัดเพื่อเป็นหลักในการจองจำอีกคนต่างหาก
ไม่รอให้เวลาจังหวะเจ้านายจัดการปลดชิปกางเกงลงมาจนสุดแล้วจับมือข้างที่เพิ่งเป็นอิสระจากเนคไทนั้นเอาไว้ก่อนจะบังคับให้มือสวยนั้นช่วยปรนมือส่วนที่เริ่มตื่นพองขึ้นมาบ้าง
มือสวยถูกบังคับให้รูดเบาๆไปตามความยาวของแท่งร้อนที่เพิ่งชักออกมาโดยที่มือของเจ้านายยังคงควบคุมความเร็วและน้ำหนักไปด้วย
ถึงไม่ใช่ครั้งแรกที่แบมแบมเห็นมันแต่ถึงอย่างนั้นก็กลับรีบหลบตาไปทางพนักพิงของโซฟาแทน
“คุณอาย?...”
เจ้านายเลิกคิ้วถามเมื่อเห็นอาการประหม่าแต่มือของเขาก็ยังไม่หยุดขับเคลื่อน
เมื่อแบมแบมไม่ตอบกลับมาก็จัดการก้มลงไปจูบอีกหนึ่งยก จูบจนพอใจแล้วก็หยุดมือที่เคยบังคับให้รูดไปตามส่วนนั้นแล้วจับมันจ่อไปที่ช่องทางที่รออยู่
“ตอนแรกผมว่าจะไม่ทำ...”
“…”
“แต่เป็นคุณที่เชิญชวนให้ผมทำต่อ”
“…”
“ผมต่างหากที่ยอมเล่นบทเจ้านายใจดีให้คุณ”
แบมแบมกัดริมฝีปากแน่นเมื่อเขาพูดจบแล้วจ่อส่วนที่แข็งพร้อมใช้งานเข้ามาครึ่งลำ
น้ำตาหยดเล็กๆค่อยๆไหลอาบแก้มอย่างช้าๆ
ไม่รู้เป็นเพราะความจุกหรือเพราะสิ่งที่เพิ่งได้ยิน
เขาเริ่มขยับอย่างช้าๆด้วยการหยัดกายเข้าหา...โดยที่แบมแบมรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นเพียงแค่สิ่งของโดยสมบูรณ์แบบ
นี่สินะ...ตัวจริงของต้วนอี้เอิน...
ไม่ใช่เจ้านายใจดีสายตาอ่อนโยนคนนั้น...คนที่บอกว่าให้แบมแบมมีชีวิตที่ดี...
มันก็แค่กับดักที่พลางตาไว้แนบเนียนที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา
ร่างบางไม่ได้ขัดขืนแต่ในเมื่อรู้ฐานะตัวเองดีแล้วก็เล่นตามบทที่เจ้านายหยิบยื่นให้
บทของเล่นที่เป็นเพียงแค่ตุ๊กตาบนเตียง แบมแบมน่ะรู้ว่าตัวเองทำมันได้ดีมากๆและรู้ดีที่สุดว่าเจ้านายพอใจกับการกระทำแบบไหนของของเล่นชิ้นนี้
“เอาสิ...ในเมื่อเป็นเจ้านายใจดี...
ก็ใส่เข้ามาในร่างกายผมแรงๆ...”
“….”
“ฮึก...แรง...อีกสิครับเจ้านาย....อื้อ...อ้ะอา...”
“อืม...”
เจ้าของเสียงต่ำเร่งหยัดแรงจากสะโพกที่กำลังเข้าได้เข้าเข็มกับท่อนล่าง
มันแรงจนร่างสวยกระเด้งไปตามความนุ่มของโซฟาที่รองรับน้ำหนัก ปลายเล็บจิกลงไปบนกล้ามแขนเมื่อถูกจี้ด้วยปลายลิ้นบนตุ่มไตอีกครั้งและอีกครั้ง
พั่บๆๆ...
“ฉีดมันเข้ามาในตัวผม..อ๊ะๆ...
อึก...อื้ออออ...”
“อืม...
แบมแบม...”
เขาฉีดของเหลวที่เกิดจากการกระทำและความเสร็จสมของอารมณ์ไปตามคำขอ
อี้เอินหอบต่ำมองหยาดน้ำของตนที่ไหลเยิ้มออกมาจากช่องสีสวย
END CUT SCENE
#เล่นละเลงรัก
กลับไปอ่านต่อ >>
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น